ที่มาภาพ http://news.mthai.com/app/uploads/2014/07/04.jpeg
วันนี้เราจะพาไปทราบถึงปัญหาที่ผู้โดยสารเจอนั่นคือ คนขับแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร โดยมุมมองจากคนขับแท็กซี่ว่าทำไม่คนขับแท็กซี่จึงปฏิเสธผู้โดยสาร วันนี้ผมจะบอกถึงสาเหตุว่า เป็นเพราะอะไรเขาจึงปฏิเสธ ซึ่งทุกคนเคยประสบปัญหานี้อยู่เสมอ ถึงแม้จะมีระเบียบจากกรมการขนส่งทางบกว่า รถแท็กซี่ทุกคันห้ามปฏิเสธผู้โดยสาร แต่ในทางปฏิบัติแล้ว มีการปฏิเสธผู้โดยสารอยู่ตลอดเวลาจนเหมือนเป็น เรื่องธรรมดา โดยคนขับมักจะให้เหตุผลว่า ต้องไปส่งกะ หรือ รถติด ซึ่งเหตุผล
เหล่านี้เป็น เหตุผล ที่ง่ายที่สุดที่จะหยิบยกขึ้นมาบอกให้ผู้โดยสารได้ทราบ แต่สาเหตุที่แท้จริงและลึกลงไปแล้วมี มากกว่าที่บอก
1.การส่งกะ เชื่อว่าส่วนหนึ่งต้องรีบไปส่งกะจริง การที่จอดรับผู้โดยสาร เพื่อดูว่าเป็นเส้นทาง เดียวกัน
หรือเปล่าถ้าใช่ก็เพิ่มรายได้อีก 1 เที่ยว ถ้าคนละเส้นทางก็จำเป็นต้องปฏิเสธ เพราะหากไป
ส่งกะช้าจะทำให้ถูกปรับค่าเช่าจากเจ้าของอู่อีกทั้งคู่กะก็เกิดความเสียหายจากการรอรับรถ
ส่งกะช้าจะทำให้ถูกปรับค่าเช่าจากเจ้าของอู่อีกทั้งคู่กะก็เกิดความเสียหายจากการรอรับรถ
2.รถติด ต้องยอมรับว่า สภาพการจราจรในกรุงเทพฯ ณ ปัจจุบันติดขัดตลอดเวลาอาจเป็น เพราะ
สภาพเศรษฐกิจ ของประชาชนดีขึ้น หรือ ราคาน้ำมัน เชื้อเพลิงถูกลงจึงทำให้มีการใช้รถยนต์มากขึ้นแต่อาชีพขับรถแท็กซี่เป็นอาชีพที่ต้องอยู่บนท้องถนนตลอด ระยะเวลาของการทำงาน ฉะนั้นรถติด
จึงถือเป็นเรื่องปกติของอาชีพนี้
แต่เหตุผลจริงๆ ที่คนขับต้องปฏิเสธผู้โดยสาร เกี่ยวข้องโดยตรงกับ ค่าโดยสาร เพราะปัจจุบัน
ค่าโดยสาร ไม่มีความเป็นธรรมสำหรับคนขับและมีค่าใช้จ่ายที่ต้องหักโดยประมาณในแต่ละวันคือ
ค่าโดยสาร ไม่มีความเป็นธรรมสำหรับคนขับและมีค่าใช้จ่ายที่ต้องหักโดยประมาณในแต่ละวันคือ
1.ค่าเช่า 550-600 บาท
2.ค่าแก๊ส NGV. 200.- บาท และมากขึ้นตามจำนวนเที่ยววิ่ง
3.ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ 120. บาท
4.ค่าล้างรถ 30.- บาท
จากจะเห็นว่า จะมีค่าใช้จ่ายแต่ละวันที่คนขับต้องจ่ายตายตัวอยู่ระหว่าง 900-950 บาท
หากวันนั้นมีรายได้ 1,200 บาท ก็จะเหลือเงินจริงๆ 250-300 บาท เท่านั้น ซึ่งในขณะนี้
รัฐบาลมีนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300.- บาท คนขับแท็กซี่ก็ถือได้ว่าอยู่ในเกณฑ์แล้ว แต่จำนวน
ชั่วโมงทำงานแต่ละคนประมาณ 12 ชั่วโมง และมีความเสี่ยงสูงหลายด้าน โดยเฉพาะด้านความ
ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งเรื่องอุบัติเหตุ เรื่องอาชญากรรม จี้ ปล้นจึงเป็นเหตุให้คนขับแท็กซี่ต้องปฏิเสธผู้โดยสาร
ที่มาข้อมูล http://suvarnabhumitaxi.co.th/Columnis.html
หากวันนั้นมีรายได้ 1,200 บาท ก็จะเหลือเงินจริงๆ 250-300 บาท เท่านั้น ซึ่งในขณะนี้
รัฐบาลมีนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300.- บาท คนขับแท็กซี่ก็ถือได้ว่าอยู่ในเกณฑ์แล้ว แต่จำนวน
ชั่วโมงทำงานแต่ละคนประมาณ 12 ชั่วโมง และมีความเสี่ยงสูงหลายด้าน โดยเฉพาะด้านความ
ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งเรื่องอุบัติเหตุ เรื่องอาชญากรรม จี้ ปล้นจึงเป็นเหตุให้คนขับแท็กซี่ต้องปฏิเสธผู้โดยสาร
ที่มาข้อมูล http://suvarnabhumitaxi.co.th/Columnis.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น